วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554

บันทึกการมีส่วนร่วม


สะท้อนผลการเรียนรู้งานโฆษณา


สะท้อนผลการเรียนรู้จากการไปจัดประสบการณ์



รูปการจัดประสบการณ์ปริศนาคำท้าย






บันทีกครั้งที่ 13 วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554

อาจารย์ให้ฟังเพลงแล้วตอบคำถามต่อไปนี้
1. ในเพลงต้องการบอกอะไร
2. ฟังเพลงแล้วรู้สึกอย่างไร
เมื่อทำเสร็จแล้วอจารย์เก็บคำตอบและให้ทำแบบตอบคำถามต่อไปอีกมีคำถามดังต่อไปนี้
1. การจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียนที่เสริมทักษะด้านภาษามีลักษณะอย่างไร

วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ครั้งที่12 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2554

อาจารย์ให้นักศึกษา Power Point เกี่ยวกับเรื่อง การจัดประสบการณ์ธรรมชาติพร้อมกับอธิบายให้กับนักศึกษาฟังในแต่ละเนื้อหาซึ่งมีเนื้อหาดังนี้

ภาษาได้จากการฝึกคิดและถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นภาษาสัญลักษณ์ คือ ตัวอักษรอย่างธรรมชาติจากการได้ฟังมาก ได้อ่านมาก จนสามารถถ่ายทอดเองได้ และมาฝึกฝนความถูกต้อง สวยงามภายหลังส่วนการอ่านนั้นสามารถทำได้ตลอดเวลาด้วยการอ่านจากหนังสือ จากถนน จากสิ่งรอบตัว จากป้ายโฆษณา จากถุงขนม

ความเชื่อมโยงภาษาพูดกับภาษาเขียน

ภาษาพูดหรือภาษาเขียนมีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันโดย ความรู้เกี่ยวกับคำจะเพิ่มพูมมากขึ้นเมื่อเราพูด เล่น สนทนาโต้ตอบ

จุดสำคัญการส่งเสริมและพัฒนาภาษาคือการที่ผู้ใหญ่อ่านหนังสือให้เด็กฟังในขณะที่ครูอ่านไปเด็กจะมองตามตัวหนังสือ และมักจะพยายามหาความหมายไปด้วยจากภาพหรือตัวหนังสือซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของพฤติกรรมการรู้หนังสือ ....คือ การที่เด็กรู้ความหมายจากภาพหรือตัวหนังสือ ลักษณะกิจกรรมที่จัดให้เด็กมีส่วนร่วม คือ พยายามหาความหมายจากภาพและตัวหนังสือ

วันศุกร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2554

ครั้งที่ 11วันที่ 26 มกราคม 2554

อาจารย์สอนนักศึกษาร้องเพลง

เพลง สวัสดี
สวัสดี สวัสดี สวัสดี ยินดีที่พบกัน
เธอและฉัน พบกันสวัสดี

เพลง ชื่อของเธอ
ชื่อของเธอฉันไม่รู้จัก ครูถามถักนักเรียนเข้าใหม่
ชื่ของเธอฉันจำไม่ได้ ชื่ออะไรขอให้บอกมา

อาจารย์ให้นักศึกษาคิดคำถอดรหัสแล้วให้ออกไปส่งจากนั้นอาจารย์ก็ได้สอนร้องเพลง แปรงฝัน แล้วให้นักศึกษาร้องตามเพลงแมงมุม เพลงบ้านของฉัน เพลงอย่าทิ้ง เพลง Hello กิจกรรม บาน-หุบ และหลังจากนั้นอาจารย์ก็ได้ให้ดูชื่อของนักทฤษฎ๊ชีแต่ละคนว่ามีวิธีการเรียนรู้เกี่ยวกับเด็กอย่างไร

สรุปก็คือ การเรียนรู้ของเด็กเกิดขึ้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมผ่านการเล่นซึ่งช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ภาษา จากกิจกรรมที่ทำร่วมกันและเป็นรายบุคคล

ครั้งที่ 10 วันที่ 19 มกราคม 2554

อาจารย์ให้นักศึกษาทุกคนร่วมกันทำกิจกรรมพร้มกันในห้องเรียน ซึ่งกิจกรรมจะมีดังต่อไปนี้

1. พูดคำคลงจอง ซึ่งเด็กจะได้พัฒนาการด้านภาษา เช่น คำ พยางค์ รู้จักคำ การแยกแยะเสียง
2.บอกความรู้สึก โดยที่จารย์จะกำหนดมาให้ เช่น นึกถึงอะไรแล้วมีความสุข นึกถึงอะไรแล้วเครียด เป็นต้น
3.โครงสร้างครอบครัว โดยาจารย์ให้นักศึกษาวาดแผนภูมิครอบครัวของแต่ละคนและให้บอกว่าแต่ละคนชื่ออะไรบ้าง
4.เขียนแล้วเล่าเรื่องต่อกัน โดยที่อาจารย์ให้นักศึกษาแต่ละคนวาดรูปภาพมาคนละหนึ่งรูปจากนั้นก็ให้ออกไปยืนหน้าห้องเรียนแล้วให้เพื่อนเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับภาพที่ได้วาดและคนที่อยู่ต่อไปก็เล่าเรื่องต่อให้เป็นเรื่องเดียวกันและคนสุดท้ายก็ต้งเล่าเรื่องต่อให้จบ
5.เกมกระซิบ โดยอาจารย์ให้เพื่อนคนที่นั่งอยู่หลังสุดเป็นคนกระซิบมาและเพื่อนที่อยู่ถัดไปก็กระซิบต่อๆกันมาจนถึงคนสุดท้าย จากนั้นก็ให้เพื่อนที่อยู่สุดท้ายอกมาบอกว่าเป็นประโยคอะไร
6.วาดไปเล่าไป โดยาจารย์จะเป็นคนที่วาดและเล่าเรื่องไปจนอกมาเป็นรูป คือ รูปแมลงเต่าทอง และหลังจากนั้นอาจารย์ก็ได้ให้งานโดยหาสระและคำพร้อมรูป และจารย์ให้แต่ละคนเขียนสะท้อนการเรียนรู้ของเด็กที่ได้ทำกิจกรรมมาทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

ครั้งที่ 9 วันที่ 12 มกราคม 2554

อาจารย์ให้นักศึกษาที่นั่งอยู่ด้วยกันจับคู่กัน 2-3 คน จากนั้นก็ให้นักศึกษาคิดคำปริศนาและท่าทางจากนั้นก็ออกมาทำท่าทางให้เพื่อนๆ ในห้องดูว่าเป็นสำนวนอะไร และหลังจากนั้นอาจารยืก็ได้ตรวจชิ้นงานของนักศึกษาแต่ละคนและได้บอกข้อดีข้อเสียเพื่อที่จะนำไปปรับปรุงกับชิ้นงานอันต่อไป

ครั้งที่ 8 วันที่ 5 มกราคม 2554

ไม่ได้มาเรียนเนื่องจากไม่สบายค่ะ

ครั้งที่ 7 วันที่ 15 ธันวาคม 2553

อาจารย์พูดเรื่องวรรณกรรมและสอนในเรื่องการจัดประสบการณ์ภาษาธรรมชาติของแนวคิดแต่ละคน เช่น โคมินิอุส , ก๊ดแมน สมิธ เมอร์ริดิธ , จูดิท นิวแมน , จอนหน์ ดิวอี้ โดยอาราจย์ได้อธิบายให้นักศึกษาฟังและให้แสดงความคิดเห็น

ครั้งที่ 6 วันที่ 8 ธันวาคม 2553

ไม่ได้มาเรียนเนื่องจากไม่สบายค่ะ

ครั้งที่ 5 วันที่ 1 ธันวาคม 2553

อาจารย์ย้ยจากเรียนวันศุกร์มาเรียนวันพุและได้พูดเรื่องในท้องถิ่นทำให้ได้เรียนรู้เรื่องสำเนียงและภาษาท้องถิ่นที่ตนเองอาศัยอยู่ เป็นการเปิดโอกาศให้กับเด็กเพื่อที่ที่จะให้เด็กได้พูดอย่างถูกต้องและเหมาะสม เช่น เมื่อครูพูดหรือเขียนจะต้องให้เด้กได้พูดและได้เขียนไปด้วย จากนั้นอาราจย์ก็ได้ให้นักศึกษาศาดูภาพเด็กคนหนี่งที่กำลังจะบอกอะไรกับเพื่อน และนี่ก็เป็นอารมณ์ของเด้กที่ตื่นเต้น และนี่ก็คือการสื่อภาษาอีกอย่างหนี่งของเด็ก